เป็นครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ใน อ เมือง จ ตรัง ซึ่งตอนนี้ประสบปัญหาการเงินอย่างหนักมาก เนื่องจากดิฉันเคยช่วยเหลือญาติเป็นคนที่สนิทรู้จักสนิทสนมกันดี
โดยเขากู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่งใน จ ตรัง และขอร้องให้ดิฉันช่วยค้ำประกันให้ เป็นเงินจำนวน 120,000 บาท ดิฉันเห็นว่าเป็นคนที่รู้จักกันและเขาบอกว่าจะกู้มาเปิดอู่ซ่อมรถจักยานยนต์  ดิฉันก็คิดอยู่นานเหมือนกันแล้วก็ตัดสินใจค้ำประกันให้ แต่สุดท้ายแล้วตั้งแต่กู้มาเขาไม่เคยได้ชำระเลย ดิฉันก็ไม่รู้เลยว่าเขาไม่จ่าย เพราะกู้เสร็จเขาก็ไม่ได้อยู่บ้านออกจากหมู่บ้านเลย จนมีหมายศาลมาถึงดิฉัน ภาระหนี้ก็เลยตกอยู่ที่ดิฉันต้องชำระแทนเขาทุกเดือน ดิฉันก็ต้องเอาเงินมาชำระแทน เงินเดือนของดิฉันก็ไม่มาก บางเดือนก็ไม่ค่อยพอจึงต้องไปกดเงินจากบัตรเครดิตซึ่งดิฉันเป็นหนี้บัตรของธนาคาร 3 ธนาคาร กดเพื่อมาชำระหนี้บ้าง ใช้จ่ายในครอบครัวบ้าง ซึ่งตอนนี้เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ประมาณ 170,000 บาท และก็ยืมเงินนอกระบบอีก 150,000 บาท ซึ่งเป็นหนี้นอกระบบ ร้อยละ 5 ,ร้อยละ 10 และร้อยละ 20 ดิฉันต้องดูแลลูก 2 คน
ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้น ป 4 และ ป 2 ดิฉันต้องแบกภาระคนเดียว ทั้งภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเพราะความโง่ของเราเองด้วยและยังต้องดูแลพ่อกับแม่ของดิฉันด้วย ซึ่งพ่อก็ประสบอุบัติเหตุรถชนกันต้องจ่ายเงินให้กับคู่กรณีอีก 10,000 บาท ค่าซ่อมรถให้เขา ส่วนแฟนเขาจะไม่รับรู้เรื่องภาระหนี้ของดิฉัน เขาไม่ช่วยไม่สนใจเรา ถ้าเดือนไหนที่ดิฉันขอร้องให้แฟนช่วยก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นคือทะเลาะกันเรื่องเงินอีก หลายครั้งที่คุยกันเรื่องเงินก็จะทะเลาะกัน ดิฉันเครียดมาก  ดิฉันมีรายได้เสริมจากการทำสวนยางพาราเล็กน้อย ส่วนมากฝนจะตกบ่อยแล้วไม่ได้กรีดยาง และก็เลี้ยงหมูเป็นการเก็บเงินแต่กว่าจะได้ขายหมูก็ประมาณ 3-4 เดือน แต่ดิฉันจะต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน